Skip to main content

สำนักงานแรงงาน จังหวัดลพบุรี

สถานการณ์แรงงานจังหวัดลพบุรี ไตรมาส 2 ปี 2555 (เมษายน – มิถุนายน)

pll_content_description

 

บทสรุปผู้บริหาร

 

*******************

 

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงานไตรมาส 2 ปี 2555 ของจังหวัดลพบุรี 

มีรายละเอียดดังนี้

 

ภาวะเศรษฐกิจ

          โครงสร้างเศรษฐกิจจังหวัดลพบุรี ตามข้อมูล GPP ปี พ.ศ.2553 ภาวะเศรษฐกิจจังหวัดลพบุรีเมื่อพิจารณาจากรายได้การผลิตขึ้นกับสาขาเกษตรกรรม อุตสาหกรรม บริหารราชการแผ่นดิน และการขายปลีก โดยมีสัดส่วนร้อยละ 24.7 22.9 16.0 และ 9.0 ของมูลค่า GPP รวมทั้งจังหวัดตามลำดับ

          ภาพรวมเศรษฐกิจจังหวัดลพบุรี ไตรมาส 2/2555 ขยายตัวเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยสาขาการผลิตหลักของจังหวัดขยายตัวสูงขึ้น ทั้งภาคการเกษตร และอุตสาหกรรม ผนวกกับด้านการบริโภค การเงิน การใช้จ่าย ภาครัฐ และการจ้างงาน ปรับตัวดีขึ้นจากปีก่อน สำหรับด้านการลงทุนภาคเอกชนยังคงชะลอตัวตามระดับความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่ด้านการท่องเที่ยวหดตัวลงจากปีก่อนเนื่องจากราคาน้ำมันที่สูงขึ้นและประชาชนลดการใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นลงในช่วงที่ค่าครองชีพสูงขึ้น

          แนวโน้มภาวะเศรษฐกิจจังหวัดลพบุรีในช่วงไตรมาส 3/2555 จะขยายตัวต่อเนื่องจากไตรมาสที่ 2 ทั้งภาคการเกษตร อุตสาหกรรม รวมทั้งการลงทุนภาครัฐจะขยายตัวในเกณฑ์ดีซึ่งจังหวัดลพบุรีได้จัดสรรงบประมาณฟื้นฟูและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมจากรัฐบาลซึ่งเป็นการกระตุ้นการลงทุนและการบริโภคในจังหวัดให้ปรับตัวดีขึ้นโดยคาดว่าความเชื่อมั่นของนักลงทุนจะปรับตัวดีขึ้นในช่วงไตรมาสถัดไป      แต่ยังคงมีปัจจัยลบที่อาจส่งผลให้เศรษฐกิจไม่ขยายตัวเท่าที่ควร คือ ราคาน้ำมันเชื้อเพลิงที่ขยายตัวในอัตราสูง ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตของผู้ประกอบการเพิ่มขึ้น และสิ่งที่รัฐบาลต้องให้ความสำคัญ คือ การวางแผนป้องกันปัญหาอุทกภัยไม่ให้เกิดความเสียหายรุนแรงเช่นเดียวกับปีก่อน สำหรับในปี 2555 สำนักงานเศรษฐกิจการคลังคาดว่าเศรษฐกิจประเทศไทยจะขยายตัวได้ร้อยละ 5.2 – 6.2 

 

สถานการณ์ด้านแรงงาน

          ประชากรและกำลังแรงงาน ประชากรในจังหวัดลพบุรีมีจำนวน 658,923 คน เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงานจำนวน 471,275 คน ผู้มีงานทำ 465,036 คน ผู้ว่างงาน

 

          การมีงานทำ ผู้มีงานทำ 465,036 คน พบว่าทำงานนอกภาคการเกษตรกรรมมีจำนวน 277,299 คน ร้อยละ 59.62 ส่วนผู้ทำงานในภาคการเกษตรกรรม 187,737 คน คิดเป็นร้อยละ 40.38 โดยกลุ่มผู้ทำงานนอกภาคการเกษตรกรรมจะทำงานในสาขาการผลิตมากที่สุด จำนวน 99,037 คน ร้อยละ 21.29 รองลงมาคือ การขายส่งขายปลีก จำนวน 60,942 คน ร้อยละ 13.10 การก่อสร้าง จำนวน 33,955 คน ร้อยละ 7.30 กิจกรรมโรงแรมและอาหาร จำนวน 28,803 ร้อยละ 6.19 และการขนส่งที่เก็บสินค้า จำนวน 6,417 คน ร้อยละ 1.38

 

          การว่างงาน ผู้ว่างงานในจังหวัดลพบุรีประมาณ 6,239 คน หรืออัตราการว่างงานร้อยละ 1.32

 

 

 

การบริการจัดหางานของจังหวัดลพบุรี   ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2555 นายจ้างและสถานประกอบการได้แจ้งตำแหน่งงานว่าง 1,620 อัตรา โดยมีผู้ลงทะเบียนทั้งสิ้น 2,826 คน และมีผู้ได้รับการบรรจุให้มีงานทำทั้งสิ้น 1,162 คน หากพิจารณาถึงรายละเอียดของระดับการศึกษาจะพบว่าตำแหน่งงานว่างที่ต้องการมากที่สุด คือ ระดับปวช./ปวส./อนุปริญญามากที่สุด คิดเป็นร้อยละ 44.13 (715 อัตรา) รองลงมาเป็นระดับ มัธยมศึกษา ร้อยละ 36.80 (596 อัตรา) ระดับประถมศึกษาและต่ำกว่า ร้อยละ 13.33 (216 อัตรา) และปริญญาตรี ร้อยละ 5.74 (93 อัตรา)   ขณะในไตรมาสนี้ ผู้มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษามีจำนวนมากที่สุด คือ ร้อยละ 40.02 (1,131 คน) รองลงมาเป็นระดับปริญญาตรี จำนวน 665 คน ร้อยละ 23.53 ปวช./ปวส./อนุปริญญา ร้อยละ 21.47 (607 คน) ส่วนระดับประถมศึกษาและต่ำกว่า ร้อยละ 14.48 (409 คน) และผู้บรรจุงานในระดับมัธยมศึกษาได้รับการบรรจุงานมากที่สุด จำนวน 512 คน ร้อยละ 44.06 รองลงมา คือ ระดับปวช./ปวส./อนุปริญญา จำนวน 285 คน ร้อยละ 24.52 ระดับปริญญาตรี ร้อยละ 17.03 (198 คน) และระดับประถมศึกษาและต่ำกว่า ร้อยละ 14.28 (166 คน)

 

การจ้างงานคนต่างด้าว ด้านแรงงานต่างด้าวมีแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้ทำงานตามมติ ครม. จำแนกตามสัญชาติมีจำนวน ทั้งสิ้น 1,243 คน จำแนกเป็นสัญชาติกัมพูชามีจำนวนมากที่สุด จำนวน 832 คน คิดเป็นร้อยละ 66.94 รองลงมาเป็นสัญชาติพม่า จำนวน 357 คน คิดเป็นร้อยละ 28.72 และสัญชาติลาว จำนวน 54 คน ร้อยละ 4.34 ของแรงงานต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตทั้งหมด

 

แรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2555 ในส่วนของการอนุญาตให้ไปทำงานต่างประเทศในไตรมาสนี้ พบว่ามีจำนวนทั้งสิ้น 69 คน หากพิจารณาตามวิธีการเดินทางของผู้ที่เดินทางไปทำงานพบว่า ส่วนใหญ่เป็นประเภท Re-Entry  คือ กลับไปทำงานอีกครั้งหนึ่งโดยการต่ออายุสัญญา คือ 55 คน (ร้อยละ 79.71) รองลงมาประเภทนายจ้างพาไปฝึกงาน 11 คน (ร้อยละ 15.94) และเดินทางด้วยตนเอง จำนวน 3 คน (ร้อยละ 4.36)

ส่วนภูมิภาคที่แรงงานไทยได้รับอนุญาตให้เดินทางไปทำงานในไตรมาสนี้ ส่วนใหญ่จะไปทำงานในภูมิภาคเอเชีย จำนวน 37 คน (ร้อยละ 53.62) รองลงมาคือภูมิภาคอื่นๆ จำนวน 18 คน (ร้อยละ 26.09) ภูมิภาคตะวันออกกลาง จำนวน 11 คน (ร้อยละ 15.94) และภูมิภาคแอฟริกา จำนวน 3 คน (ร้อยละ 4.35) ของแรงงานไทยที่ไปทำงานต่างประเทศทั้งหมด

 

การพัฒนาศักยภาพแรงงาน ในส่วนของการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน โดยจำแนกตามกลุ่มอาชีพ พบว่ามีเพียง 2 กลุ่มอาชีพ จำนวน 32 คนที่เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน คือกลุ่มอาชีพช่างเครื่องกลจำนวน 18 คน คิดเป็นร้อยละ 56.26 ของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน   และช่างอุตสาหกรรมศิลป์ จำนวน 14 คน คิดเป็นร้อยละ 43.75 ของผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน หากพิจารณาถึงผู้ผ่านการฝึกเตรียมเข้าทำงาน ผู้เข้ารับการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานผ่านการฝึกทั้ง 2 กลุ่มอาชีพ

การฝึกยกระดับฝีมือแรงงานพบว่า มีผู้เข้ารับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานทั้งสิ้น 254 คน จำแนกเป็นกลุ่มอาชีพที่เข้ารับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานมากที่สุด คือ กลุ่มอาชีพธุรกิจและบริการ จำนวน 234 คน คิดเป็นร้อยละ 92.12 (ผู้ผ่านการฝึกจำนวน 143 คน  คิดเป็นร้อยละ 61.11 ของผู้เข้ารับการฝึก) และช่างเครื่องกล จำนวน 20 คน คิดเป็นร้อยละ 7.88 (ผ่านการฝึกทั้งหมด)

 

 

 

การตรวจแรงงาน การตรวจแรงงานในจังหวัดลพบุรี เป็นการตรวจเพื่อให้คำแนะนำ ความรู้ในการปฏิบัติที่ถูกต้องแก่นายจ้างรวมทั้งสร้างความเข้าใจแก่ลูกจ้าง/ผู้ใช้แรงงานในการปฏิบัติที่ถูกต้อง สำหรับในไตรมาส 2 ปี   2555   สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดลพบุรี ได้ดำเนินการตรวจแรงงานในสถานประกอบการทั้งสิ้น 58 แห่ง มีลูกจ้างที่ผ่านการตรวจหรือได้รับความคุ้มครองรวม 1,090 คน จำแนกเป็นชาย 488 คน (ร้อยละ 35.31) ของลูกจ้างที่ผ่านการตรวจทั้งหมด และหญิง 602 คน          (ร้อยละ 55.22) ซึ่งสถานประกอบการที่ผ่านมาการตรวจส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาด 1 – 4 คน    คิดเป็นร้อยละ 48.27 (28 แห่ง) รองลงมาเป็นสถานประกอบการขนาด 5 – 9 คน ร้อยละ 22.41    (13 แห่ง) สถานประกอบการขนาด 10 – 19 คน และขนาด 20 – 49 คน มีขานเท่ากันคือ ร้อยละ 8.62 (5 แห่ง) สถานประกอบการขนาด 50 – 99 คน ร้อยละ 6.89 (4 แห่ง) และสถานประกอบการขนาด 200 – 499 คน ร้อยละ 5.17 (3 แห่ง)

 

การประกันสังคม จำนวนสถานประกอบการดูแลผู้ประกันตนที่เข้าสู่ระบบประกันสังคมจำแนกออกเป็น 2 กองทุน คือกองทุนประกันสังคมและกองทุนเงินทดแทน โดยกองทุนประกันสังคมมีจำนวนสถานประกอบการทั้งสิ้น 2,219 แห่ง ผู้ประกันตน 71,792 ราย และกองทุนเงินทดแทนมีสถานประกอบการทั้งสิ้น 1,932 แห่ง ลูกจ้าง 63,886 ราย หากพิจารณาการใช้บริการกองทุนเงินทดแทน (เนื่องจากการทำงาน) จำแนกตามประเภทความร้ายแรงพบว่า ประเภทการหยุดงานไม่เกิน 3 วัน คิดเป็นร้อยละ 75.30 (125 คน) รองลงมาคือ หยุดงานเกิน 3 วัน ร้อยละ 23.50 (39 คน) สูญเสียอวัยวะบางส่วน คิดเป็นร้อยละ 0.60 (1 คน) และตาย คิดเป็นร้อยละ 0.60 (1 คน) ของจำนวนผู้ใช้บริการกองทุนเงินทั้งหมด

ในด้านการใช้บริการจากกองทุนประกันสังคมเมื่อพิจารณาตามประเภทของประโยชน์ทดแทน (ไม่เนื่องจากการการทำงาน) ซึ่งมี 7 กรณี ได้แก่ เจ็บป่วย คลอดบุตร ทุพพลภาพ ตาย สงเคราะห์บุตร ชราภาพ และว่างงาน พบว่าจำนวนผู้ใช้บริการทั้งสิ้น 25,747 ราย สำหรับประเภทประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนของผู้ใช้บริการสูงสุดได้แก่ กรณีสงเคราะห์บุตร มีผู้ประกันตนใช้บริการ 12,404 ราย คิดเป็นร้อยละ 48.17 รองลงมาได้แก่กรณีเจ็บป่วย ว่างงาน คลอดบุตร ทุพพลภาพ ชราภาพ และตาย โดยมีสัดส่วนร้อยละ 29.61 16.04 3.04 1.54 1.35 0.25 ตามลำดับ

TOP