Skip to main content

สำนักงานแรงงาน จังหวัดลพบุรี

สถานการณ์แรงงานจังหวัดลพบุรี ไตรมาส 3 ปี 2556 (กรกฎาคม – กันยายน 2556)

pll_content_description

 

 บทสรุปผู้บริหาร

สถานการณ์ด้านเศรษฐกิจและแรงงาน 

ไตรมาส  3  ปี  2556  มีรายละเอียดสรุปดังนี้

          สำนักงานคลังจังหวัดลพบุรี  รายงานผลิตภัณฑ์มวลรวมจังหวัดในไตรมาส  3  ปี  2556  พบว่า  อุตสาหกรรมที่มีผลิตภัณฑ์มวลรวมสูงสุด  3  อันดับแรกได้แก่  1)  การอุตสาหกรรม      (ร้อยละ  32.99  ของ  GPP)  2)  การบริหารราชการแผ่นดิน  (ร้อยละ  16.04  ของ  GPP)              3)  การขายส่ง  ขายปลีก  (ร้อยละ  8.28        ของ  GPP)  การจดทะเบียนนิติบุคคลจัดตั้งใหม่  มีจำนวน  73  ราย  อุตสาหกรรมที่มีทุน          จดทะเบียนสูงสุด  คือ  การผลิตในส่วน         การจดทะเบียนจัดตั้งใหม่  พบว่ามี  จำนวน        5  ราย  เงินลงทุน  35.30  ล้านบาท  สามารถเพิ่มแรงงานได้  23  คน 

           ประชากรและกำลังแรงงานจังหวัดลพบุรี  มีประชากรจำนวน  775,439  คน       เป็นผู้อยู่ในกำลังแรงงาน  จำนวน  664,567  คน  ผู้มีงานทำ  476,761  คน  ผู้ว่างงาน   5,921  คน  ผู้รอฤดูกาล  572  คน 

          การมีงานทำ  ผู้มีงานทำในจังหวัดลพบุรี  จำนวน  476,761  คน  หรือร้อยละ  61.48  ทำงานในภาคเกษตร  ผู้มีงานทำจำนวน  182,288  คน  หรือร้อยละ  38.23  ทำงานนอกภาคการเกษตร  โดยทำงานในสาขาการผลิตมากที่สุด  จำนวน  80,130  คน  หรือร้อยละ  16.80  รองลงมาคือการขายส่ง  ขายปลีก  จำนวน  68,853  คน  หรือร้อยละ  14.44  และผู้ที่มีงานทำส่วนใหญ่มีการศึกษาต่ำกว่าประถมศึกษา  จำนวน  133,972  คน  หรือร้อยละ  28.10 

          การว่างงาน  จังหวัดลพบุรีมีผู้ว่างงาน  จำนวน  5,921  คนหรือมีอัตราการว่างงานร้อยละ  1.20 

          แรงงานนอกระบบ  จากข้อมูลเบื้องต้นปี  2556มีผู้ทำงานอยู่ในแรงงานนอกระบบจำนวน  476,761  คน  หรือร้อยละ  71.74  โดยส่วนใหญ่จะทำงานในภาคเกษตรคือจำนวน  152,528  คน  หรือร้อยละ  31.99  อุตสาหกรรมที่มีแรงงานนอกระบบสูงสุดคือ  การผลิต  จำนวน  80,130  คน  หรือร้อยละ  16.80  รองลงมาคือ  การขายส่ง  ขายปลีก  จำนวน  68,853  คน  หรือร้อยละ  14.44  ส่วนอาชีพที่มีการทำงานนอกระบบสูงสุด  คือ  ผู้ปฏิบัติงานที่มีฝีมือในด้านการเกษตรและการประมง  จำนวน  152,528  คน  หรือร้อยละ  31.99  รองลงมา  คือ  พนักงานบริการ          และพนักงานร้านค้าและตลาด  จำนวน      96,903  คน   หรือร้อยละ  20.32  สำหรับด้านการศึกษาแรงงานนอกระบบส่วนใหญ่มี   การศึกษาในระดับต่ำกว่าประถมศึกษา  จำนวน      133,972  คน  หรือร้อยละ  28.10

          การบริการจัดหางานในประเทศ  ในช่วงไตรมาส  3  ปี  2556  (กรกฎาคม – กันยายน)  นายจ้าง/สถานประกอบการได้แจ้งตำแหน่งงานว่าง  จำนวน  1,400  คน  โดยมีผู้สมัครงาน  2,838  คน  และการบรรจุงานจะมีอัตราการบรรจุงานต่อตำแหน่งงานว่าง  ร้อยละ  99.5          (การบรรจุงานมากกว่าตำแหน่งงานว่าง  เนื่องจากได้ติดตามผลการบรรจุของผู้สมัครงานในไตรมาสก่อน  ซึ่งได้รับการบรรจุงานเพิ่มขึ้นในไตรมาสนี้)  ส่วนตำแหน่งงานว่างตามระดับการศึกษา          ที่ต้องการสูงสุด  คือ  ประถมศึกษาและต่ำกว่า       มีความต้องการร้อยละ  31.28  (438  อัตรา)  รองลงมาเป็นระดับ  ปวส.  ร้อยละ  44.71     (262  อัตรา)  สำหรับอาชีพที่มีการบรรจุงานมากที่สุด  คือ  อาชีพงานพื้นฐาน  ร้อยละ  51.90  (723  คน)  และอุตสาหกรรมที่มีตำแหน่งงานว่างมากที่สุด  คือ  การผลิต  ร้อยละ  52.35        (733  อัตรา)

          ความต้องการแรงงาน  ในจังหวัดลพบุรี  ปี  2556  คาดการว่าสถานประกอบการมีความต้องการแรงงานฝีมือมากที่สุด จำนวน 84 อัตรา (ร้อยละ 55.27) รองลงมา ได้แก่ แรงงานกึ่งฝีมือ จำนวน 40 อัตรา  (ร้อยละ 26.31) และแรงงาน  ไร้ฝีมือ 20 อัตรา (ร้อยละ 13.15) ตามลำดับ    โดยแรงงานที่ต้องการส่วนใหญ่ต้องการระดับต่ำกว่ามัธยมศึกษาตอนต้นมากที่สุดจำนวน          50  อัตรา  (ร้อยละ  31.44)  รองลงมาเป็นได้แก่  ระดับ  ปวส. จำนวน  33  อัตรา  (ร้อยละ  20.75)  และระดับมัธยมศึกษาตอนต้น  และระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  จำนวน  25  อัตรา     (ร้อยละ  15.73)  ตามลำดับ  อาชีพที่ต้องการแรงงานมากที่สุด  ได้แก่  อาชีพพนักงานเสิร์ฟอาหารและเครื่องดื่ม  บริกร  จำนวน  25  อัตรา  (ร้อยละ  15.72)  รองลงมาได้แก่  อาชีพช่างก่ออิฐ(ช่างก่อสร้าง)  และอาชีพช่างปูนคอนกรีต  อาชีพละ  20  อัตรา  (ร้อยละ  12.57)  สำหรับการเข้าออกงานลูกจ้างที่ออกจากงาน  ปี  2556            มีจำนวน  12,494  คน  โดยส่วนใหญ่เป็นการลาออกของพนักงาน  8,417   คน  (ร้อยละ  67.36)  ส่วนการลดตำแหน่งงาน  3,632  คน  (ร้อยละ  29.07)  เหตุผลอื่นๆ  409  คน  (ร้อยละ  3.28)  อาชีพที่ขาดแคลนมากที่สุดในจังหวัดลพบุรี  คืออาชีพพนักงานดูแลความปลอดภัย  พนักงานรักษาความปลอดภัย  จำนวน  40  อัตรา       (ร้อยละ  47.61)  รองลงมาได้แก่  แรงงานฝีมือ  จำนวน  36  อัตรา  (ร้อยละ  42.85)  ส่วนระดับการศึกษาที่ขาดแคลนสูงสุดคือระดับปวส.  จำนวน  17  อัตรา  (ร้อยละ  21.25)  รองลงมาได้แก่  ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย  จำนวน  15  อัตรา  (ร้อยละ  18.75)  และระดับปวส./อนุปริญญา  จำนวน  13  อัตรา  (ร้อยละ  16.25)  ตามลำดับ

          แรงงานต่างด้าว  ที่เข้าเมืองโดยถูกต้องตามกฎหมายและได้รับอนุญาตให้ทำงาน      ข้อมูลเดือนกันยายน  2556  มีจำนวน  587  คน  แรงงานต่างด้าวส่วนใหญ่เป็นประเภทชั่วคราว  จำนวน  232  คน  รองลงมาแรงงานต่างด้าวประเภทมาตรา  13  ยกเว้นมติ  ครม.  จำนวน  24  คน  และประเภทส่งเสริมการลงทุน  จำนวน  13  คน

          แรงงานไทยในต่างประเทศ  ในช่วง    ไตรมาส  3  ปี  2556  จังหวัดลพบุรี  มีผู้แจ้งความประสงค์ไปทำงานต่างประเทศ  จำนวน     59  คน  โดยแรงงานที่ทำงานในต่างประเทศ    ส่วนใหญ่เป็นผู้มีการศึกษาระดับมัธยมศึกษา    ส่วนวิธีการเดินทางพบว่า  ไปโดย  Re-Entry  จำนวน  36  คน  หรือร้อยละ  61.02  รองลงมานายจ้างพาไปฝึกงาน  จำนวน  20  คน  ร้อยละ  33.90  ส่วนภูมิภาคที่แรงงานไทยไปทำงาน     ส่วนใหญ่  อยู่ในภูมิภาคเอเชีย  จำนวน  38  คน  (ร้อยละ  64.41)

          การพัฒนาศักยภาพแรงงาน  จังหวัดลพบุรี  โดยศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดลพบุรี  ในช่วงไตรมาส  3  ปี  2556  ไม่มีการฝึกเตรียมเข้าทำงานในจังหวัดลพบุรี  จำแนกตามกลุ่มอาชีพ  ระหว่างเดือนกรกฎาคม –  กันยายน  2556

          สำหรับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานในจังหวัดลพบุรี  จำแนกตามกลุ่มอาชีพ  ระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน  2556  ไม่มีผู้เข้ารับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานในจังหวัดลพบุรี  จำแนกตามกลุ่มอาชีพ

          การทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน       ในจังหวัดลพบุรี  จำแนกกลุ่มอาชีพระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน  2556  มีการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงาน  จำนวน  94  คน  โดยกลุ่มอาชีพที่ทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานมากที่สุด  คือ  ธุรกิจและบริการ  จำนวน  54  คน         หรือร้อยละ  57.45  รองลงมา  คือกลุ่มช่าง     อุตสาหการ  จำนวน  30  คน  หรือร้อยละ  31.91  และกลุ่มช่างเครื่องกล  จำนวน  10  คน  หรือร้อยละ  10.64  มีผู้ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานในจังหวัดลพบุรี  จำนวน  34  คน  หรือร้อยละ  36.17  กลุ่มอาชีพที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานมากที่สุด  คือ  กลุ่มช่าง   อุตสาหการ  จำนวน  16  คน  หรือร้อยละ  47.05  รองลงมา  คือ  กลุ่มธุรกิจและบริการ  จำนวน  11  คน  หรือร้อยละ  32.36  และกลุ่มช่างเครื่องกล  จำนวน  7  คน  หรือร้อยละ  20.59

          การฝึกยกระดับฝีมือแรงงานในจังหวัดลพบุรี  จำแนกตามกลุ่มอาชีพ  ระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน  2556  ตามโครงการยกระดับศักยภาพแรงงานไทยให้มีศักยภาพสูงขึ้นสอดคล้องกับความต้องการของสถานประกอบกิจการ  มีการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานฯ  จำนวน  697  คน  โดยมีกลุ่มอาชีพที่เข้ารับการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานฯ  สูงสุด  คือ  กลุ่มธุรกิจและบริการ  จำนวน  564  คน  หรือร้อยละ  80.91  รองลงมา  คือ  กลุ่มช่างเครื่องกล  จำนวน  78  คน        หรือร้อยละ  11.20  และกลุ่มช่างอุตสาหการ  จำนวน  55  คน  หรือร้อยละ  7.89  สำหรับ     ผู้ผ่านการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานฯ  จำนวน    681  คน  หรือร้อยละ  97.70  กลุ่มอาชีพ        ที่ผ่านการฝึกยกระดับฝีมือแรงงานสูงสุด          คือ  กลุ่มธุรกิจและบริการ  จำนวน  552  คน        หรือร้อยละ  81.05  รองลงมา  คือ             กลุ่มช่างเครื่องกล  จำนวน  78  คน  หรือร้อยละ  11.46  และกลุ่มช่างก่อสร้าง  จำนวน  51  คน  หรือร้อยละ  7.40

          การฝึกยกระดับฝีมือแรงงานในจังหวัดลพบุรี  จำแนกตามอาชีพ  ระหว่างเดือนกรกฎาคม – กันยายน 2556  ตามโครงการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน  มีผู้เข้ารับการฝึกฯ จำนวน  40  คน  คือ  กลุ่มช่างเครื่องกล        และกลุ่มช่างอุตสาหกรรมศิลป์  มีจำนวนเท่ากัน  จำนวน  20  คน  หรือร้อยละ  50  ซึ่งมีผู้ผ่าน  การฝึกยกระดับฝีมือแรงงานฯ  ทั้งหมด

          การคุ้มครองแรงงาน  จากการตรวจสถานประกอบการทั้งสิ้น  59  แห่ง  มีลูกจ้างผ่านการตรวจ  จำนวน  1,344  คน  ซึ่งสถานประกอบการส่วนใหญ่เป็นสถานประกอบการขนาด  1 – 4  คน  ร้อยละ  35.60  โดยสถานประกอบการส่วนใหญ่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย

–  สถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย  ในไตรมาส  3  ปี  2556  ไม่มีสถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

–  เรื่องที่ปฏิบัติตามกฎหมายมากที่สุดในไตรมาส  3  ปี  2556  ไม่มีสถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมาย

–  ประเภทอุตสาหกรรมที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุด  ในไตรมาส  3  ปี  2556         ไม่มีสถานประกอบการที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง        ตามกฎหมาย

          การตรวจความปลอดภัยในการทำงาน     มีการตรวจความปลอดภัยในสถานประกอบการ  ทั้งสิ้น  33  แห่ง  ลูกจ้างที่ผ่านการตรวจ  จำนวน  430  คน  พบว่าสถานประกอบการที่ปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมายความปลอดภัย  จำนวน      32  แห่ง  หรือร้อยละ  96.96  ปฏิบัติไม่ถูกต้องจำนวน  1  แห่ง  หรือร้อยละ  30.30            โดยประเภทอุตสาหกรรมที่มีอัตราการปฏิบัติไม่ถูกต้องมากที่สุด  ได้แก่  ประเภทโรงแรม  จำนวน  15  แห่ง  หรือร้อยละ  46.87  รองลงมา         คือ  ประเภท   การผลิต  จำนวน  9  แห่ง      หรือร้อยละ  28.12  และประเภทบริการ       ด้านอสังหาริมทรัพย์  การให้เช่าและบริการ    ทางธุรกิจ  จำนวน  3  แห่ง  หรือร้อยละ  9.37 

          การประสบอันตราย/เจ็บป่วยจากการทำงาน  ในช่วงไตรมาส  3  ปี  2556  มีการประสบอันตรายหรือเจ็บป่วยเนื่องจากการทำงาน  จำนวน  153  คน  โดยประเภทส่วนใหญ่         จะหยุดงานไม่เกิน  3  วัน  จำนวน  120  คน           หรือร้อยละ  78.43  และหยุดงานเกิน  3  วัน  จำนวน  33  คน  หรือร้อยละ  21.57 

          การเกิดข้อเรียกร้อง/ข้อพิพาทแรงงานและข้อขัดแย้งภายในจังหวัดลพบุรี  ในไตรมาส  3  ปี  2556  ไม่มีการแจ้งข้อเรียกร้อง/ข้อพิพาท  และข้อขัดแย้งใดๆ      

          การเลิกจ้างแรงงาน  สถานประกอบการในจังหวัดลพบุรี  ที่เลิกกิจการมีจำนวน  3  แห่ง  ลูกจ้างที่เลิกจ้าง  8  คน  ส่วนสถานประกอบการที่หยุดกิจการมีจำนวน  37  แห่ง  ลูกจ้างที่รับผลกระทบ  104  คน

          การสวัสดิการ  มีการส่งเสริมให้บริการด้านสวัสดิการแรงงานนอกเหนือจากที่กฎหมายกำหนด  28  แห่ง  ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง  2,067  คน 

          การประกันสังคม  ข้อมูล  ณ  เดือนกันยายน  2556  พบว่า  จังหวัดลพบุรีมีจำนวนสถานประกอบการและผู้ประกันตนที่เข้าสู่ระบบประกันสังคม  จำแนกออกเป็น  2  กองทุน       คือ  กองทุนประกันสังคม  และกองทุนเงินทดแทน  โดยกองทุนประกันสังคมมีจำนวนสถานประกอบการทั้งสิ้น  39  แห่ง  มีผู้ประกันตน      317  ราย  และกองทุนเงินทดแทน  มีสถานประกอบการทั้งสิ้น  38  แห่ง  ผู้ประกันตน     302  ราย  และมีสถานพยาบาลในสังกัดประกันสังคมที่เป็นสถานของรัฐ  จำนวน  3  แห่ง  ของสถานพยาบาลทั้งหมด

 

          กองทุนประกันสังคม  ณ  เดือนกันยายน  2556  มีเงินกองทุน  76,375,000.05  บาท  จำนวนผู้ใช้บริการมีจำนวน  23,898  ราย  ประเภทประโยชน์ทดแทนที่ผู้ประกันตนใช้บริการสูงสุด  ได้แก่  สงเคราะห์บุตร  มีจำนวน      14,232  ราย  หรือร้อยละ  59.55  สำหรับการจ่ายเงินกรณีเจ็บป่วยมีการจ่ายเงินสูงสุดถึง  6,120,050.00  บาท  หรือร้อยละ  8.01         ของเงินประโยชน์ทดแทนที่จ่าย

 

 

 

 

TOP